ลิเวอร์พูล แสดงออกอย่างชัดเจนว่าคงไม่ร่วมวงไล่ล่า เจดอน ซานโช่ ปีกทีมชาติอังกฤษ จาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แน่นอน เพราะค่าตัวของนักเตะมันสูงริบจนไม่กล้าที่จะอาจเอื้อม ต่างจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยินดีไม่มีปัญหาในการโชว์รวยจ่ายไม่อั้นเพื่อคว้าแข้งรายนี้มาร่วมทีม
จริงๆ แล้ว เจอร์เก้น คล็อปป์ สนใจในตัว ซานโช่ มาตลอด เพราะนักเตะเล่นให้ "เสือเหลือง" ทีมเก่าที่เขาสร้างจนยิ่งใหญ่ แต่ด้วยค่าตัวที่สูงมากทำให้พวกเขาจำเป็นต้องเบนเข็มไปหาผู้เล่นคนอื่นๆ ขณะที่ ซานโช่ ตอนนี้ก็มี แมนฯ ยูไนเต็ด กับ เชลซี ที่เป็นสองทีมเต็งจะได้เขาไปร่วมทัพ

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดาวเตะวัย 20 ปี ไม่ใช่เป้าหมายในการทำสงครามนอกสนามระหว่าง "หงส์แดง" กับ "เร้ด เดวิลส์" ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยเปิดศึกแย่งชิงผู้เล่นฝีเท้าดีมาแล้วหลายคนในช่วงที่ผ่านมา

โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่

  แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นทีมแรกที่แสดงความสนใจอยากได้ ฟีร์มีโน่ มาร่วมทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2015 แต่สุดท้ายแล้ว ลิเวอร์พูล สามารถเจรจาในช่วงโค้งสุดท้าย และดึงตัว ดาวเตะชาวบราซิเลียน มาสวมเสื้อหมายเลข 9 ของทัพ "หงส์แดง" ได้สำเร็จ

จริงๆ แล้วสุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ ฟีร์มีโน่ ย้ายมาอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ ก็คือ แมนฯ ยูไนเต็ด มัวแต่ชักช้าโดยเตรียมแผนที่จะดึง แข้งแซมบ้าที่เวลานั้นอยู่กับฮอฟเฟ่นไฮม์ หลังจากที่นักเตะจบภารกิจช่วยชาติในศึกโกปา อเมริกา แต่ประธานบริหารของ "เดอะ เร้ดส์" ใจเด็ดกว่าเมื่อขึ้นนกเหล็กไปถึง ชิลี เจ้าภาพทัวร์นาเมนต์นั้น และตกลงคว้า "บ็อบบี้" มาร่วมทีมด้วยราคา 29 ล้านปอนด์ (ราว 1,102 ล้านบาท)เท่านั้น

เมมฟิส เดอปาย

ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะได้ลายเซ็นของ ฟีร์มีโน่ พวกเขาเล็ง เมมฟิส เดอปาย เอาไว้ และในตอนนั้นสื่อต่างประโคมข่าวกันยกใหญ่เกี่ยวกับข่าวลือที่ว่า "หงส์แดง" พร้อมทุ่มเต็มสูบเพื่อคว้า แข้งดัตช์มาเสริมแกร่งให้ได้ในปี 2015 ขณะเดียวกันเจ้าตัวก็กำลังฮอตสุดๆ ช่วงที่เล่นให้กับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ซะด้วย

แน่นอนว่า "หงส์แดง" หมายมั่นปั้นมือว่าจะได้ เดอ ปาย มาช่วยกระชากลากเลื้อยบริเวณริมเส้นให้ทีม แต่สุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าเขาไปร่วมทีมได้สำเร็จ โดยตอนนั้น สตาร์ลูกหนังชาวดัตตช์ เปิดใจสั้นๆ ว่า "สุดท้ายแล้วมันเป็นเรื่องของความรู้สึก ไม่เกี่ยวกับเงินเลย"

ฟาบินโญ่

ว่ากันว่านี่คือกองกลางที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มองว่าเป็นจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายภายใต้การกุมบังเ***ยนของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่หวังจะเอามาเสริมแกร่งในแดนกลาง และดูเหมือนว่าทุกอย่างกำลังจะไปได้สวย เพราะนักเตะเตรียมจะย้ายจาก โมนาโก มาอยู่ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล กับปาดหน้าคว้า โฮลดิ้งมิดฟิลด์ชาวบราซิเลียนไปครอบครอง โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นเพียงแค่ 2 วันหลังจากที่พวกเขาแพ้ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ในรอบชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน

"ผมไม่ปฏิเสธว่ามีการเจรจากันพอสมควรเกี่ยวกับสถานะของผมกับ โมนาโก แต่ไม่มีการยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการจากแมนฯ ยูไนเต็ด" ฟาบินโญ่ เปิดใจผ่าน "โฟร์โฟร์ทู" นิตยสารวงการลูกหนังชื่อก้องโลก

ฟิล โจนส์

หลังจากมีโอกาสลงเล่นให้ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ฤดูกาลครึ่ง โจนส์ ซึ่งตอนนั้นเป็นเพียงดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการลูกหนังอังกฤษ มีโอกาสได้ก้าวย่างสำคัญในอาชีพพ่อค้าแข้ง

ตอนนั้น เซอร์เคนนี่ ดัลกลิช ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล โดยเขาลงทุนเดินทางไปที่บ้านของ โจนส์ เพื่อพูดคุยกับครอบครัวของนักเตะเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการย้ายมาเล่นที่แอนฟิลด์ แต่เมื่อเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตัดสินใจยกเลิกช่วงวันหยุดพักผ่อน เพื่อเซ็นสัญญากับเขาด้วยค่าตัว 16.5 ล้านปอนด์ (ราว 627 ล้านบาท)

หลังจากได้ตัวมาสวมชุด "ปีศาจแดง" ท่านเซอร์ ถึงขนาดหยอดคำหวานยกย่อง โจนส์ ว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ในหน้าประวัติศาสตร์เมกะลูกหนัง "เธียเตอร์ ออฟ ดรีม"......

จากวันนั้นถึงวันนี้สาวก "เร้ด อาร์มี่" คงได้คำตอบแล้วว่าคำพูดของ "ป๋า" เป็นจริงแค่ไหน !!??!!

ซาดิโอ มาเน่

ตอนที่ ซาดิโอ มาเน่ กำลังจะโบกมือลา "นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน ในปี 2016 ทั้ง ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แสดงความต้องการอยากได้ ปีกจรวจมาร่วมทีมให้ได้ แต่สุดท้ายทัพ "หงส์แดง" สอยนักเตะมาค้าแข้งได้สำเร็จ

"ผมเกือบแล้ว เพราะผมมีโอกาสได้พูดคุยกับพวกเขา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) ตอนนั้นผมเดินทางไปที่นั่น และได้พูดคุยกับเจ้านายคนก่อน (หลุยส์ ฟาน กัล) พวกเขายื่นข้อเสนอมาให้ แต่ในสัปดาห์เดียวกัน (เจอร์เก้น) คล็อปป์ ก็โทรมาหาผม" มาเน่ เปิดใจ

นี่คือการโทรศัพท์เปลี่ยนชีวิตอย่างแท้จริง...

คริสเตียโน่ โรนัลโด้

โรนัลโด้ กำลังมีชื่อเสียงอย่างมากที่โปรตุเกส โดยมีหลายสโมสรแสดงความสนใจอยากได้ตัว เนื่องจากเจ้าหนูรายนี้เต็มไปด้วยพรสวรรค์อย่างแท้จริง

ฟิล ธอมป์สัน ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยโค้ช "หงส์แดง"ได้เฝ้าติดตามผลงานของ โรนัลโด้ มานาน และยอมรับว่านี่คือนักเตะที่มีทักษะสูงมากๆ แต่น่าเสียดายที่เจ้าตัวต้องการค่าเหนื่อยแบบหลังหักภาษีไปแล้วปีละ 1 ล้านปอนด์ (ราว 38 ล้านบาท) พร้อมค่าตัว 4 ล้านปอนด์ (ราว 152 ล้านบาท) ซึ่งถือว่าเยอะมากๆ เมื่อเปรียบเทียบกับดาวรุ่งพรสรรค์สูงคนอื่นๆ ในยุคนั้น

สุดท้าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล้าทุ่มเงินเมื่อตัดสินใจจ่ายค่าเสียหายให้กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน จำนวนสูงขึ้นถึง 12 ล้านปอนด์ (ราว 456 ล้านบาท) โดย ธอมป์สัน กล่าวว่า " ผมแทบไม่อยากเชื่อตาตัวเองจริงๆ มันน่าแปลกมากๆ ที่ค่าตัวของเขาเพิ่มขึ้นถึงสามเท่า แน่นอนว่าเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ แต่ตอนนั้นมันไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าเขาจะกลายเป็นนักเตะชั้นยอดเหมือนอย่างในทุกวันนี้"

เอาเข้าจริงๆ หาก โรนัลโด้ อยู่ในมือ เชราร์ด อุลลิเย่ร์ กุนซือ "เดอะ เร้ดส์" ในเวลานั้น อาจจะไม่ใช่ "ซีอาร์ 7" ในวันนี้ก็ได้...

เฟอร์จิล ฟาน ไดค์

ใจที่มุ่งมั่นไปแล้วไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้ กรณีนี้ต้องใช้กับ ฟาน ไดค์ เพราะย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 2 ปีที่ผ่านมา ดาวเตะเลือดดัตช์ได้เข้ารับการตรวจร่างกายกับแพทย์ "หงส์แดง" ในเดือนธันวาคม 2017 ซึ่งตอนนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามที่จะโทรหาเขาเพื่อหวังว่า ฟาน ไดค์ จะเปลี่ยนใจ

สุดท้ายคำตอบของ อดีตเซนเตอร์แบ็ก "นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน เป็นยังไง ก็คงรู้แล้วใช่ไหม !!

กาเบรียล ไฮน์เซ่

เรื่องนี้อาจจะแตกต่างจากกรณีที่กล่าวมาก่อนหน้านี้นิดหน่อย เพราะเหตุการณ์มันเกิดขึ้นในขณะที่เขาเป็นนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปแล้ว

ราฟาเอล เบนิเนซ กุนซือ "หงส์แดง"  ในเวลานั้น อยากเซ็นสัญญากับ ฟูลแบ็กชาวอาร์เจนไตน์ มากๆ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2007 และได้ยื่นข้อเสนอเป็นจำนวนเงินที่พวกเขาเชื่อว่าน่าจะกระตุ้นให้ "ปีศาจแดง" ยอมฉีกสัญญา ไฮน์เซ่ ซึ่งประมาณ 6.8 ล้านปอนด์ (ราว 258.4 ล้านบาท)

ในเวลานั้น ไฮน์เซ่ กระสันย้ายไปเล่นที่แอนฟิลด์ เช่นกัน แต่สุดท้าย "เซอร์เฟอร์กี้" ไม่ต้องการให้เรื่องนี้เกิดขึ้น และยืนยันว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ห้ามปล่อยนักเตะไปให้กับ ลิเวอร์พูล เด็ดขาด ซึ่งนั่นนำไปสู่การทะเลาะกันอย่างรุนแรงของ ไฮน์เซ่ กับ "ป๋า"

สุดท้าย มหาบุรุษเลือดวิสกี้ ตัดใจไม่เก็บ ไฮน์เซ่ เอาไว้อีกต่อไป และขายให้ เรอัล มาดริด ด้วยสนนราคาเบาๆ สบายๆ 6.8 ล้านปอนด์.....เท่ากับที่ ลิเวอร์พูล เสนอเป๊ะ

ทาคูมิ มินามิโนะ

ต้องบอกว่าการชิงตัว จอมทัพทีมชาติญี่ปุ่น รายนี้ ลิเวอร์พูล ไม่ต้องออกแรงมากนัก เนื่องจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้มีข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวกับ มินามิโนะ ทำให้ "หงส์แดง" ได้เปรียบทุกมุมในการเจรจากับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ต้นสังกัดของเจ้าตัวในเวลานั้น

"ปีศาจแดง" ไม่รู้เรื่องค่าฉีกสัญญาของ มินามิโนะ ที่ถูกแสนถูกเพียงแค่ 7.25 ล้านปอนด์ (ราว 275 ล้านบาท) เท่านั้น และนั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาได้ตัว สตาร์เลือดซามูไร มาเล่นในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบ 2 เดือนมกราคมที่ผ่านมา นั่นเอง

เท็ดดี้ เชอริงแฮม

รอย อีแวนส์ สวมบทบอสใหญ่ "เดอะ เร้ดส์" ในเวลานั้น และอยากได้ เชอริงแฮม กองหน้าประสบการณ์สูงมาเสริมแกร่ง เพื่อให้เกมรุกของทีมดุดันยิ่งขึ้นเมื่อปี 1997 หลังแยกทางจาก สแตน คอลลีมอร์ แต่เงื่อนไขข้อตกลงของ "น้าเท็ด" มันเยอะเกินไปสำหรับ บอร์ดบริหาร "หงส์แดง" ที่คิดว่าเขาอายุ 31 ปีแล้วซึ่งถือว่าแก่เกินไป

อย่างไรก็ตาม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่มองแบบนั้น และเลือกที่จะดึงตัวมาร่วมทีม โดย 4 ปีที่อยู่กับ "ผีแดง" เขาได้แชมป์รายการใหญ่ถึง 5 รายการ

ประตูที่ยิง บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงทดเจ็บ รอบชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 1998/99 คงทำให้บอร์ดลิเวอร์พูล เข้าใจแล้วว่านักเตะประสบการณ์สูงมีความสำคัญขนาดไหน ...

จะว่าไปแล้วหากนักเตะที่กล่าวมาได้ย้ายไปอยู่กับฝ่ายตรงข้ามจริงๆ ก็ไม่แน่ว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันหรือไม่

สนับสนุนโดยเว็บไซต์ คาสิโนออนไลน์