แม้ปัจจุบันกองกลางอัจฉริยะแดนปลาดิบอย่าง ชินจิ โอโนะ จะย่างก้าวเข้าสู่วัย 40 ปีแล้วก็ตามที่แต่ความฝันฟุตบอลแรงบันดาลใจที่ทรงอิทธิพลต่อนักเตะรุ่นหลังบนแผ่นดินอาทิตย์อุทัย ยังเต็มเปี่ยมเสมอเมื่อเรื่องราวของเขาถูกนำเสนอและปัจจุบันยังคงโลดแล่นอยู่บนสนามหญ้าแม้ว่าจะเป็นระดับเจลีก 2 อย่างเอฟซี ริวกิว ก็ตามที
เส้นทางฟุตบอลของ “โอโนะ”ถูกกล่าวขานเป็นอย่างมากอาจจะด้วยความมหัศจรรย์ผสมผสานกับฝีเท้าที่เข้าขั้นอัจฉริยะรวมไปถึงการแจ้งเกิดเร็วด้วยความสามารถล้วนๆ ป๋าดันให้เกิดบนเส้นทางชีวิตของแข้งรายนี้น้อยมาก ช่วงเริ่มต้นที่ “เมสซี่เจ”ชนาธิป สรงกระสินธ์ ออกสตาร์ทในถิ่นซัปโปโรใหม่ๆ โอโนะ คือพี่เลี้ยงของชนาธิปที่คอยให้คำปรึกษาอีกจน “เมสซี่เจ”เรียกเขาว่าลูกพี่ มีช่วงหนึ่งที่แข้งตำนานญี่ปุ่นรายนี้เคยกล่าวถึงอนาคตแข้งไทยโดยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า ชนาธิปยังสามารถพัฒนาได้อีกเยอะ
ชินจิ โอโนะ ความมหัศจรรย์มีเรื่องราวต่างๆน่าค้นหามากมายไม่ว่าจะเป็นการเล่นฟุตบอลโลกครั้งแรก 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส ด้วยวัยเพียง 18 ปีเศษ แถมมีโอกาสลงไปสร้างชั่วโมงบินในสนามแข่งขัน โอโนะ สามารถรักษาฟอร์มการเล่นที่ต่อเนื่องยืนหยัดรับใช้ทีมชาติญี่ปุ่นในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายถึง 3 สมัย 1998 (ฝรั่งเศส),2002(ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้) และ 2006 (เยอรมัน) สถิติการลงสนามในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งแรกในชีวิตของโอโนะยังเป็นสถิติการลงเล่นอายุน้อยที่สุดตลอดกาลของทีมชาติญี่ปุ่น 18 ปี 272วัน ยังไม่มีใครสามารถทำลายลงได้
จริงๆแล้วดาวเตะรายนี้ฉายแววตั้งแต่สมัยเล่นทีมเยาวชนทีมชาติญี่ปุ่น สมัยอายุ 13 ปี ก้าวกระโดดเป็นตัวเลือกในทีมชาติชุด 17 ปี พาทีมคว้าแชมป์เอเชีย 1994 หลังจากนั้นก้าวขึ้นมาเป็นขุมกำลังหลักในทีมเยาวชน 19 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 1998 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นที่ จ.เชียงใหม่ ครั้งนั้น ชินจิ โอโนะ พาทีมจบด้วยการคว้ารองแชมป์ พร้อมกับคว้าตำแหน่งดาวเตะยอดเยี่ยมไปครอง อีกทั้งยังคว้ารางวัลเยาวชนยอดเยี่ยมของทวีปประจำปี ซึ่งปีเดียวกัย โอโนะ ถูกส่งขึ้นไปสู่ทีมชุดใหญ่เพื่อไปทำศึกฟุตบอลโลกที่ฝรั่งเศส
ความสำเร็จเฉพาะบุคคลช่วงปี 1998-1999 พอบอกอะไรได้หลายอย่างทั้งการคว้าเยาวชนยอดเยี่ยมเอเชีย,ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์,ดาวรุ่งยอดเยี่ยมเจลีก,11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมเจลีก,11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม 20ปี ชิงแชมป์โลก พร้อมกับพายู-20 ญี่ปุ่นคว้ารองแชมป์โลก ปี 1999 ก่อนที่จะต่อยอดสู่ผู้เล่นยอดเยี่ยมทวีปเอเชียปี 2002 ความสามารถมนตราของฝีเท้าระดับทวีปเอเชียไม่สามารถกักขังความเจ๋งได้อีกต่อไปเมื่อ เฟร์ยานูด ของฮอลแลนด์กระชากไปร่วมทีม เวทียุโรปสำหรับแข้งเอเชียยุคนั้นหากว่าไม่ดีพอคงยืนระยะเวลาลำบาก ห้วงเวลา 4 ปี 112 กว่าเกม บ่งบอกถึงคุณภาพที่ทีมจะขาดเขาไม่ได้ที่สำคัญ โอโนะ คว้าแชมป์ยูฟ่าคัพ 2001-2002 กับทีม
ดาวจากแดนพระอาทิตย์อุทัยเฉิดฉายสาดแสงอย่างต่อเนื่องแม้ปัญหาหลักๆคืออาการบาดเจ็บแต่เมื่อมีเวลาในสนามแข่งขันมักมีเรื่องมหัศจรรย์เกิดขึ้นเสมอจากความอัจฉริยะของฝีเท้า ตลอดช่วงระยะเวลาในการเป็นนักฟุตบอลจนถึงเวลาปัจจุบัน ชินจิ โอโนะ กลายเป็นไอคอนฟุตบอลของเด็กๆในญี่ปุ่น เพราะการลากยาวบนถนนเส้นนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวที่ดีงามตามความรับผิดชอบวินัยที่มี ทั้งการคว้าแชมป์ระดับสโมสร,ระดับทีมชาติ ความสำเร็จในยุโรป ทุกอย่างคือรูปธรรมจากความอัจฉริยะของฝีเท้า จนมาถึงวันนี้สื่อในญี่ปุ่นต่างยกย่องว่านี่คือแข้งอัจฉริยะยุคเริ่มต้นยุคทองของวงการฟุตบอลญี่ปุ่น
ข้อมูลส่วนตัว
ชินจิ โอโนะ
ปัจจุบันอายุ 40 ปี
ตำแหน่ง กองกลาง
สโมสร:อุราวะ เรดส์ฯ 1998-2001,2006-2007,เฟยานูด 2001-2005,โบคุมส์ 2008-2009,ชิมิสุ 2010-2012,เวสเทิร์น ซิดนีย์ 2012-2014 ,ซัปโปโร 2014-2019, เอฟซี ริวกิว 2019-2020
เกียรติประวัติกับสโมสรและทีมชาติ:แชมป์เจลีก 2006,แชมป์เอมพาเรอร์คัพ 2006,แชมป์ซูปเปอร์คัพ 2006,แชมป์เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีก2007 ,แชมป์ยูฟ่า คัพ 2001-2002,รองแชมป์KNVB Cup 2002-2003,แชมป์เอลีก 2012-2013,แชมป์ 16 ปี เอเชีย 1994,รองแชมป์ 19 ปี เอเชีย 1998 ,รองแชมป์โลก 20 ปี 1999,แชมป์เอเซียนคัพ 2000
เกียรติประวัติส่วนตัว:เยาวชนยอดเยี่ยมเอเชีย 1998,ผู้เล่นยอดเยี่ยม 19 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 1998 ,11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมยู20 ชิงแชมป์โลก 1999,ผู้เล่นยอดเยี่ยมเอเชีย ปี 2002,ดาวรุ่งยอดเยี่ยม เจลีก 1998, 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม เจลีก 1998
สนับสนุนโดยเว็บไซต์ คาสิโนออนไลน์
|